ก่อนจะส่งปลาร้าข้ามจังหวัดหรือข้ามประเทศไม่ใช่เรื่องยากเหมือนแต่ก่อน เพราะการจัดส่งเดี๋ยวนี้มีเส้นทางมากมาย แต่ก่อนจะจัดส่งต้องเลือกภาชนะให้สามารถส่งน้ำปลาร้าได้ถึงผู้รับปลายทางแบบไม่ส่งกลิ่นและเลอะเทอะ เพราะการส่งอาหารที่มีกลิ่นแรงทุกครั้งต้องทำให้แน่ใจว่าอาหารนั้นจะไม่ส่งกลิ่นรบกวนระหว่างส่ง ฉะนั้นก่อนส่งต้องเลือกภาชนะที่จะส่งให้ดีว่าควรจะใช้ภาชนะรูปแบบใดและเก็บอย่างไร
เก็บใส่ภาชนะที่ไม่ชำรุดเสียหาย
ก่อนจะเก็บน้ำปลาร้าและเนื้อปลาร้าใส่ภาชนะต้องดูว่าภาชนะที่นำมาใช้นั้นชำรุดเสียหายหรือไม่ เพราะถ้ามีรอยแตก รั่วซึมจะทำให้ปลาร้าหกเลอะเทอะระหว่างที่ส่งได้ ซึ่งวัสดุของภาชนะแต่ละประเภทก็อาจจะไม่เหมือนกัน ทั้งพลาสติก แก้ว ฯลฯ ซึ่งวัสดุแต่ละอย่างจะมีความคงทนแตกต่างกันไป
ฝาปิดภาชนะต้องปิดสนิท
หลังจากเลือกภาชนะที่ดีแล้วก็ต้องดูฝาปิดว่ามีรอยเสียหายหรือชำรุดหรือไม่ เช่น ฝาปิดเกลียวก็ต้องปิดสนิท เกลียวแน่น ไม่มีการรั่วซึมออกมาเมื่อใส่น้ำปลาร้า หรือถ้าเป็นฝาล็อคก็ต้องล็อคสนิทเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฝาปิดภาชนะประเภทใดก็ตาม ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนส่งปลาร้าข้ามจังหวัดหรือข้ามประเทศว่าสามารถปิดสนิทดีหรือไม่
เลือกปลาร้าที่มีคุณภาพก่อนบรรจุใส่ภาชนะ
ถึงจะมีภาชนะที่ดีและมีฝาปิดสนิทไม่ส่งกลิ่นเหม็น แต่ถ้าเลือกปลาร้าคุณภาพไม่ดี หรืออาจจะบูดและเสียแล้ว ก็จะทำให้มีกลิ่นเหม็นจนออกมาจากภาชนะได้ และที่สำคัญก็อาจจะทำให้ผู้รับไม่สามารถทานปลาร้าได้ ดังนั้นก่อนจะใส่น้ำปลาร้าและเนื้อปลาทั้งหมดลงไปในภาชนะก็ต้องสังเกตปลาร้าก่อนว่ามีสีและกลิ่นที่ดีหรือไม่ และควรสังเกตด้วยว่ามีไข่แมลงหรือตัวแมลงต่าง ๆ ตกลงไปในปลาร้าหรือไม่
เลือกผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าที่ได้รับการรับรอง
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ต้องการส่งปลาร้ามักจะเลือกแบรนด์ปลาร้าที่น่าเชื่อถือ ทั้งรสชาติและบรรจุภัณฑ์ที่ดีและไม่ส่งกลิ่นระหว่างส่ง ยิ่งกว่านั้นต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเรื่องความสะอาด เพราะถ้าได้รับมาตรฐานในทุก ๆ ด้านแล้ว การขนส่งปลาร้าก็ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไปว่าจะส่งกลิ่นแรงระหว่างส่งหรือไม่ และปลาร้าจะมีรสชาติอย่างไรเมื่อถึงปลายทาง เพราะปลาร้าที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์เป็นปลาร้าที่เชื่อถือได้นั่นเอง